ระดับภาษา
ภาษาเป็นเครื่องมือสื่อความรู้ ความคิด ความรู้สึก จินตนาการ ทัศนคติ และใช้สร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
ระดับภาษาเป็นเรื่องของความเหมาะสมในการใช้ภาษาตามสัมพันธภาพของบุคคล ตามโอกาส กาลเทศะ และประชุมชน เพื่อให้สัมฤทธิ์สมความมุ่งหมาย
การแบ่งภาษาเป็นระดับต่างๆ
แบ่งโดยละเอียด ๕ ระดับ
แบ่งโดยละเอียด ๕ ระดับ
๑. ระดับพิธีการ
๒. ระดับทางการ
๓. ระดับกึ่งทางการ
๔. ระดับไม่เป็นทางการ
๕. ระดับกันเอง
ภาษาระดับพิธีการ
ใช้สื่อสารในที่ประชุมที่จัดขึ้นเป็นพิธีการ เช่น การเปิดประชุมรัฐสภา การกล่าวอวยพร การกล่าวต้อนรับ การกล่าวคำปราศรัย การกล่าวรายงานในพิธีมอบปริญญาบัตรหรือประกาศนียบัตร การกล่าวสดุดี หรือการกล่าวเพื่อจรรโลงใจให้ประจักษ์ในคุณงามความดี การกล่าวปิดพิธี ฯลฯ
ภาษาระดับทางการ
ใช้บรรยายหรืออภิปรายอย่างเป็นทางการในที่ประชุม หรือใช้เขียนข้อความที่จะให้ปรากฏต่อสาธารณชนอย่างเป็นการเป็นงาน การใช้ภาษาระดับนี้ เช่น การประชุมที่ต่อจากช่วงที่ต้องทำตามพิธีการแล้ว หนังสือที่ใช้ติดต่อกับทางการ หรือวงการธุรกิจ
หลักการใช้ภาษาระดับนี้ ใช้ภาษาตรงไปตรงมา เน้นการสื่อสารให้ได้ผลตามจุดประสงค์ โดยประหยัดถ้อยคำ ประหยัดเวลาให้มากที่สุด
ภาษาระดับกึ่งทางการ
มักใช้ในการประชุมกลุ่ม หรืออภิปรายกลุ่ม ที่เล็กลงกว่าในระดับทางการ การใช้ภาษาระดับกึ่งทางการเช่นการบรรยายในห้องเรียน ข่าวและบทความในหนังสือพิมพ์
การใช้ถ้อยคำสำนวนภาษาที่ทำให้รู้สึกคุ้นเคยกว่าภาษาในระดับที่ ๒ เนื้อหาของสารมักเป็นความรู้ทั่วไป การแสดงความเห็นเชิงวิชาการเกี่ยวกับการดำเนินชีวิต รกิจ มักใช้ศัพท์วิชาการเท่าที่จำเป็น เพื่อให้บุคคลที่ไม่ได้เรียนรู้ด้านนั้นๆโดยตรงสามารถรับสารได้เข้าใจตรงตามจุดประสงค์ของผู้ส่งสาร
ภาษาระดับไม่เป็นทางการ
มักใช้ในการสนทนาโต้ตอบระหว่างบุคคล หรือกลุ่มบุคคลไม่เกิน ๔-๕ คน ในเวลาและสถานที่ไม่ใช่ส่วนตัว เช่น การเขียนจดหมายระหว่างเพื่อน การรายงานข่าว การเสนอบทความในหนังสือพิมพ์
เนื้อหาของสารมักเป็นเรื่องทั่วๆไปในชีวิตประจำวัน กิจธุระต่างๆ
ภาษาระดับกันเอง
มักใช้ในการประชุมกลุ่ม หรืออภิปรายกลุ่ม ที่เล็กลงกว่าในระดับทางการ การใช้ภาษาระดับกึ่งทางการเช่นการบรรยายในห้องเรียน ข่าวและบทความในหนังสือพิมพ์
การใช้ถ้อยคำสำนวนภาษาที่ทำให้รู้สึกคุ้นเคยกว่าภาษาในระดับที่ ๒ เนื้อหาของสารมักเป็นความรู้ทั่วไป การแสดงความเห็นเชิงวิชาการเกี่ยวกับการดำเนินชีวิต รกิจ มักใช้ศัพท์วิชาการเท่าที่จำเป็น เพื่อให้บุคคลที่ไม่ได้เรียนรู้ด้านนั้นๆโดยตรงสามารถรับสารได้เข้าใจตรงตามจุดประสงค์ของผู้ส่งสาร
ภาษาระดับไม่เป็นทางการ
มักใช้ในการสนทนาโต้ตอบระหว่างบุคคล หรือกลุ่มบุคคลไม่เกิน ๔-๕ คน ในเวลาและสถานที่ไม่ใช่ส่วนตัว เช่น การเขียนจดหมายระหว่างเพื่อน การรายงานข่าว การเสนอบทความในหนังสือพิมพ์
เนื้อหาของสารมักเป็นเรื่องทั่วๆไปในชีวิตประจำวัน กิจธุระต่างๆ
ภาษาระดับกันเอง
ภาษาระดับนี้ใช้ในวงจำกัด เช่น ภาษาที่ใช้ในครอบครัว หรือใช้ระหว่างเพื่อนสนิท สถานที่ใช้มักเป็นที่ส่วนตัว เช่น บ้าน
ข้อสังเกตบางประการเรื่องระดับภาษา
๑. ภาษาระดับหนึ่งอาจเหลื่อมล้ำกับอีกระดับหนึ่ง เช่น ระดับ ๒ ,๓ อาจใช้ปะปนกันหรือระดับ ๓,๔ อาจใช้ด้วยกันบ้าง เป็นต้น
๒. บุคคลแต่ละคนอาจจะไม่มีโอกาสใช้ภาษาครบทั้ง๕ระดับ แต่ทุกคนย่อมต้องใช้ระดับ ๓,๔ อยู่เสมอๆ
๓. ถ้าใช้ระดับภาษาไม่เหมาะสมแก่กาลเทศะและโอกาสก็จะเป็นอุปสรรคในการสื่อสาร ผู้รับสารอาจเห็นไปว่า ผู้ส่งสารเสแสร้ง ไม่จริงใจ หรือไม่รู้กาลเทศะ เป็นต้น
ปัจจัยที่กำหนดระดับภาษา
๑. โอกาสและสถานที่
๒. ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
๓. ลักษณะของเนื้อหา
๔. สื่อที่ใช้
ลักษณะของภาษาระดับต่างๆ
๑. การเรียบเรียง
๒. กลวิธีนำเสนอ
๓. ถ้อยคำที่ใช้
- คำสรรพนาม
- คำนาม
- คำกริยา
- คำวิเศษณ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น